ฉันจะค้นหาหมายเลข SKU ของรายการขายของชำได้อย่างไร

SKU ย่อมาจาก Stock Keeping Unit และเป็นรหัสเฉพาะที่ช่วยให้ร้านค้าของชำสามารถช่วยติดตามสินค้าที่ขายหรือเก็บไว้ในสินค้าคงคลังของร้านค้า SKU มักจะอยู่ในรูปแบบของสตริงของตัวอักษรหรือตัวเลข แม้แต่รายละเอียดปลีกย่อยเล็กๆ ในผลิตภัณฑ์ เช่น ขนาด ก็จะแสดงเป็น SKU ที่ไม่ซ้ำกัน ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เครือข่ายร้านขายของชำขนาดใหญ่หลายแห่งได้พยายามลดจำนวนผลิตภัณฑ์ที่เก็บไว้ในสต็อก ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโปรแกรมเพิ่มประสิทธิภาพที่เรียกว่าการหาเหตุผลเข้าข้างตนเองของ SKU ซึ่งจะทำให้จำนวนหมายเลข SKU ที่ต้องติดตามลดลง ตัวอย่างเช่น แทนที่จะพกยาสีฟัน Crest 32 แบรนด์ที่แตกต่างกัน Walmart อาจเลือกที่จะพกพาเพียง 16 แบรนด์

ขั้นตอนที่ 1

หมายเลข SKU ส่วนใหญ่ในผลิตภัณฑ์ของชำจะอยู่ใน Universal Product Codes (UPC) ซึ่งปรากฏอยู่ที่ใดที่หนึ่งบนบรรจุภัณฑ์เป็นชุดของเส้นที่มีความกว้างต่างกันโดยมีตัวเลขอยู่ใต้บรรทัด ดูที่ด้านข้างหรือด้านล่างของผลิตภัณฑ์สำหรับ UPC หรือที่เรียกว่าบาร์โค้ด บาร์โค้ดประกอบด้วยข้อมูล รวมทั้ง SKU ที่เครื่องสแกนหยิบขึ้นมาที่บรรทัดเช็คเอาท์

ขั้นตอนที่ 2

หากต้องการค้นหา SKU บนผลิตภัณฑ์ที่ไม่ซ้ำกับร้านขายของชำโดยเฉพาะ เช่น ขนมปังจากร้านเบเกอรี่หรือเนื้อสัตว์และชีสที่หั่นเป็นชิ้นสด ให้ดูที่ฉลากที่พิมพ์จากร้านค้าซึ่งมีชื่อผลิตภัณฑ์และคำอธิบาย SKU จะเป็นส่วนหนึ่งของบาร์โค้ด

ขั้นตอนที่ 3

ผลิตภัณฑ์แบรนด์เนมมีบาร์โค้ดสากลที่เครือข่ายร้านขายของชำมักใช้เป็น SKU ตัวอย่างเช่น สองแพ็คเกจแยกกันประเภทเดียวกัน ขนาดและรูปร่างของคุกกี้ Oreo จะมี SKU เดียวกัน หากแพ็คเกจหนึ่งไม่มี SKU ให้มองหายี่ห้อและขนาดที่เหมือนกันทุกประการ

ขั้นตอนที่ 4

เนื่องจากร้านค้าหลายแห่งใช้บาร์โค้ดสากลเป็น SKU รหัสจึงอาจเหมือนกันในหลายสาขา แพ็คเกจคุกกี้ Oreo ที่ Target น่าจะมี SKU เดียวกันกับคุกกี้ Oreo ประเภทและขนาดเดียวกันที่ Walmart

ผักและผลไม้บางชนิดไม่มีบาร์โค้ด หากต้องการค้นหา SKU ของผลิตภัณฑ์เหล่านั้น ให้มองหาสติกเกอร์บนผลิตภัณฑ์ที่มีหมายเลขที่แคชเชียร์ของร้านจะพิมพ์ลงในคอมพิวเตอร์เพื่อค้นหาผลิตภัณฑ์นั้นในฐานข้อมูลของร้านค้า หากสินค้าไม่มีสติกเกอร์ ให้ขอรหัส "ค้นหา" ของร้านค้าสำหรับสินค้านั้นจากแคชเชียร์